ราคา ลิ้นชักเก็บเงิน Cash Drawer ราคาขายส่ง ลิ้นชักเก็บเงิน จำหน่าย ลิ้นชักเก็บเงิน ในราคาขายส่ง
วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556
QR Code คือ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
เครื่องอ่าน บาร์โค้ด แต่ละประเภท เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
ความหมายและประเภทของ Barcode Scanner(Reader)
เครื่องอ่านบาร์โค้ด จำแนกออกได้ 2 กลุ่มใหญ่ คือ เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบสัมผัส และ เครื่องอ่านบาร์โค้ด ไม่สัมผัส และยังสามารถแยกประเภทตามลักษณะการเคลื่อนย้ายได้ โดยแบ่งกลุ่มเป็นเครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบเคลื่อนย้ายได้ (Portable) และ เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบยึดติดกับที่(Fixed Positioning Scanners)
เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบเคลื่อนย้ายได้ (Portable) เครื่องอ่านบาร์โค้ด ประเภทนี้ ส่วนมากจะมีหน่วยความจำในตัวเอง เพื่อเก็บข้อมูลที่อ่านหรือบันทึกด้วยปุ่มกดสามารถนำอุปกรณ์ไปใช้ได้ง่ายโดยสามารถพกพาได้ การอ่านรหัสแต่ละครั้งจะนำเอาเครื่องอ่านเข้าไปยังตำแหน่งที่สินค้าอยู่ ส่วนมากเครื่องอ่านลักษณะนี้จะมีน้ำหนักเบา ส่วนแบบที่ไม่มีหน่วยความจำในตัวเองจะทำงานแบบไร้สายเหมือนโทรศัพท์ไร้สายที่ใช้ภายในบ้านซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง
เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบยึดติดกับที่ (Fixed Positioning Scanners) เครื่องอ่านบาร์โค้ด ประเภทนี้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ส่วนมากจะติดตั้งกับด้านข้าง หรือตำแหน่งใดๆ ที่เหมาะสมในแนวทางวิ่งของสายพานลำเลียง เพื่ออ่านรหัสที่ติดกับบรรจุภัณฑ์และเคลื่อนที่ผ่านไปตามระบบสายพานลำเลียง บางครั้งเครื่องอ่านประเภทนี้จะติดตั้งภายในอุปกรณ์ของระบบสายพานลำเลียงเพื่อให้สามารถอ่านได้โดยอัตโนมัติ อีกรูปแบบที่เราเห็นกันมาก จะฝังอยู่ที่โต๊ะแคชเชียร์ ตามห้างสรรพสินค้า โดยแคชเชียร์จะนำสินค้าด้านที่มีบาร์โค้ดมาจ่อหนาเครื่องอ่านที่ถูกฝังไว้กับโต๊ะ หรือตั้งไว้ด้านข้าง เครื่องอ่านจะทำการอ่านบาร์โค้ดโดยอัตโนมัติ เมื่อมีวัตถุเคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้าตัวเครื่อง
เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบสัมผัส (Contact Scanners) เครื่องอ่านบาร์โค้ดประเภทนี้ เป็นอุปกรณ์ที่เวลาอ่าน ต้องสัมผัสกับผิวหน้าของรหัสแท่ง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ-
เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบปากกา (Pen Scanner) หรือแวนด์ (Wand) เป็นเครื่องอ่านบาร์โค้ด ที่มีลักษณะเหมือนหัวปากกา โดยมีปลายปากกาเป็นอุปกรณ์สำหรับผลิตลำแสงเพื่ออ่านข้อมูล น้ำหนักเบา พกพาสะดวก มีข้อจำกัดเรื่องคุณภาพฉลากต้องดีมาก เพราะหัวอ่านที่สัมผัสบนรหัสแท่งอาจจะทำให้รหัสลบหรือเสียหายได้ เหมาะสำหรับอ่านบาร์โค้ดบนเอกสารหรือคูปอง
-
เครื่องอ่านบัตร (Slot Scanner)เป็น เครื่องอ่านบาร์โค้ด ที่ใช้อ่านรหัสแท่งจากบัตรหรือวัสดุอื่น โดยต้องรูดบัตรที่มีบาร์โค้ดนั้นลงในช่องเพื่ออ่านข้อมูล เหมาะสำหรับรูดบัตรที่มีบาร์โค้ด อ่านรหัสบาร์โค้ดจากบัตรประจำตัว เพื่อบันทึกเวลาหรือดูข้อมูลต่างๆ ด้วยตัวเจ้าของบัตรเอง
เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบไม่สัมผัส (Non Contact Scanner) เป็น เครื่องอ่านบาร์โค้ด ที่มีหลายรูปแบบจากแบบง่ายๆ ที่ลักษณะคล้ายปีนที่เห็นตามร้านค้าปลีก จนถึงระบบแบบ Pocket PC สามารถอ่านโดยห่างจากรหัสแท่งได้ ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว ง่ายและสะดวก โดยแบ่งเป็นหลายชนิดดังนี้
-
เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบ CCD (Charge Coupled Device Scanner) เครื่องอ่านบาร์โค้ด ประเภทนี้ เป็นเครื่องอ่านราคาถูก การทำงานจะอาศัยการสะท้อนของแสงจากรหัสแท่งและช่องว่างแล้วเปลี่ยนเป็นสัญญาณวีดีโอ เครื่องอ่านแบบนี้ในขณะอ่านจะไม่มีการเคลื่อนที่ชิ้นส่วน ความแม่นยำจะสูงกว่าแบบเลเซอร์ ใช้พลังงานน้อย อายุการใช้งานของอุปกรณ์ในการสร้างลำแสง (LED) จะยาวนานกว่า เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบนี้ยังเป็นแบบตัดวงจรไฟอัตโนมัติในกรณีที่ไม่มีการใช้งาน
-
เครื่องอ่านบาร์โคดแบบ Linear Imaging เครื่องอ่านบาร์โค้ด ประเภทนี้ เป็นเครื่องอ่านบาร์โค้ด ที่ใช้หลักการอ่านโดยวิธีจับภาพโดยเลนซ์รับภาพเช่นเดียวกับกล้องถ่ายรูป ทำให้ระบบหัวอ่านมีความสามารถในการอ่านในเชิงเรขาคณิตสูงกว่าเครื่องอ่านแบบ CCD สามารถอ่านบาร์โค้ดขนาดเล็กมากๆได้ เนื่องจากใช้การอ่านด้วยตัวเลนซ์รับภาพทำให้จับภาพได้ระยะไกลขึ้น อ่านได้เร็วถึง 100-450 scan ต่อวินาที ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบ Linear Imaging มีความสามารถในการอ่านและความเร็วในการอ่านเหนือว่าการอ่านแบบ CCD แต่มีความทนทานเหมือนกัน และอ่านในระยะไกลได้เทียบเท่ามาตรฐานของเครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบเลเซอร์
-
เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบเลเซอร์ ( Laser Scanner) เครื่องอ่านบาร์โค้ด ชนิดนี้มีวิธีการทำงาน คือเมื่อกดปุ่มอ่านรหัสจะเกิดลำแสงเลเซอร์ซึ่งมีกระจกเงาเคลื่อนที่มารับแสงแล้วสะท้อนไปตกกระทบกับรหัส และผ่านเป็นแนวเส้นตรงเพียงครั้งเดียว ลำแสงที่ยิงออกมาจะมีขนาดเล็กด้วยความถี่เดียว ไม่กระจายออกไปนอกเขตที่ต้องการทำให้สามารถอ่านรหัสที่มีขนาดเล็กได้ดี
- เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบเลเซอร์ชนิดเส้นเดี่ยว ( Single Line laser Scanner)
- เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบเลเซอร์ชนิดหลายเส้น ( Multiple Line Laser Scanner)
- เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบเลเซอร์ชนิดโฮโลแกรม
บาร์โค้ด คือ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
- 2.1 ระบบ EAN (European Article Numbering) เริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2519 มีประเทศต่าง ๆ ใช้มากกว่า 90 ประเทศทั่วโลกในภาคพื้นยุโรป เอเชียและแปซิฟิก,ออสเตรเลีย,ลาติน อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย
- 2.2 ระบบ UPC (Universal Product Code) เริ่มช้เมื่อปี พ.ศ. 2515 โดยมีการใช้แพร่หลาย
- 1. ลดขั้นตอน และประหยัดเวลาการทำงาน การซื้อขายสินค้า จะมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการรับชำระเงิน การออกใบเสร็จ การตัดสินค้าคงคลัง
- 2. ง่ายต่อระบบสินค้าคงคลัง คอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมกับเครื่องสแกนเนอร์ จะตัดยอดสินค้าโดยอัตโนมัติ จึงสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการหมุนเวียนสินค้า สินค้ารายการใดจำหน่ายได้ดีหรือไม่ มีสินค้าเหลือเท่าใด
- 3. ยกระดับมาตรฐานสินค้า การระบุบาร์โค้ดแสดงข้อมูลสินค้าของผู้ผลิตแต่ละราย ทำให้ผู้ผลิต คำนึงถึงการปรับปรุงคุณภาพ สินค้าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของสินค้า และสอดคล้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เรื่องการแสดงข้อมูลสินค้า
- 4. สร้างศักยภาพเชิงแข่งขันในตลาดต่างประเทศ บาร์โค้ดมาตรฐานสากลเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสินค้าที่เชื่อถือได้ การมีเลขหมายประจำตัวสินค้า ทำให้ผู้สนใจสามารถทราบถึงแหล่งผู้ผลิต และติดต่อซื้อขายกันได้สะดวกโดยตรง รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการส่งออก
บาร์โค้ด หมายถึง เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
- 2.1 ระบบ EAN (European Article Numbering) เริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2519 มีประเทศต่าง ๆ ใช้มากกว่า 90 ประเทศทั่วโลกในภาคพื้นยุโรป เอเชียและแปซิฟิก,ออสเตรเลีย,ลาติน อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย
- 2.2 ระบบ UPC (Universal Product Code) เริ่มช้เมื่อปี พ.ศ. 2515 โดยมีการใช้แพร่หลาย
- 1. ลดขั้นตอน และประหยัดเวลาการทำงาน การซื้อขายสินค้า จะมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการรับชำระเงิน การออกใบเสร็จ การตัดสินค้าคงคลัง
- 2. ง่ายต่อระบบสินค้าคงคลัง คอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมกับเครื่องสแกนเนอร์ จะตัดยอดสินค้าโดยอัตโนมัติ จึงสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการหมุนเวียนสินค้า สินค้ารายการใดจำหน่ายได้ดีหรือไม่ มีสินค้าเหลือเท่าใด
- 3. ยกระดับมาตรฐานสินค้า การระบุบาร์โค้ดแสดงข้อมูลสินค้าของผู้ผลิตแต่ละราย ทำให้ผู้ผลิต คำนึงถึงการปรับปรุงคุณภาพ สินค้าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของสินค้า และสอดคล้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เรื่องการแสดงข้อมูลสินค้า
- 4. สร้างศักยภาพเชิงแข่งขันในตลาดต่างประเทศ บาร์โค้ดมาตรฐานสากลเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสินค้าที่เชื่อถือได้ การมีเลขหมายประจำตัวสินค้า ทำให้ผู้สนใจสามารถทราบถึงแหล่งผู้ผลิต และติดต่อซื้อขายกันได้สะดวกโดยตรง รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการส่งออก
การนำเทคโนโลยีบาร์โค้ด 2 มิติมาใช้งาน เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
- การนำบาร์โค้ดมาพิมพ์ลงบนนามบัตร (รูปที่ 17,18) เพื่อนำบาร์โค้ดมาใช้ในการบันทึกข้อมูลติดต่อลงมือถือโดยตรง มีการนำไปใช้ในประเทศ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา [6] - การนำบาร์โค้ดมาพิมพ์ลงบนบัตรเครดิต (รูปที่ 19) เพื่อจัดเก็บรหัสบัตรเครดิต รหัสผ่าน และ เว็บไซต์ผู้ให้บริการบัตรเครดิต [7] - การนำมาใช้ในบัตรผ่านทางในประเทศเกาหลี ตัวอย่างการใช้งานบาร์โค้ดแบบ Data Matrix - การ์นำบาร์โค้ดใช้ติดกับแผงวงจรที่มีขนาดพื้นที่ที่จำกัด (รูปที่ 20) - การนำบาร์โค้ดใช้ติดชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็ก [8] เพื่อแสดงรายละเอียดของชิ้นส่วนนั้น (รูปที่ 21)
- การนำมาใช้ในบัตรเครดิต [9] ขั้นตอนการนำไปใช้ (รูปที่ 22) โดยทำการติดต่อกับธนาคาร เพื่อขอบาร์โค้ดมาใช้แทนบัตรเครดิต วิธีการใช้ คือ เมื่อต้องการซื้อสินค้าก็นำบาร์โค้ดไปแสกนเพื่อหักยอดเงินออกจากบัตรเครดิต และทำการพิมพ์ใบเสร็จออกมา - การนำมาใช้ในการจองตั๋ว [10] ขั้นตอนการนำไปใช้ (รูปที่ 23) โดยเริ่มจากการสั่งจองทางโทรศัพท์หรือทางอินเตอร์เน็ต เมื่อทำการสั่งจอง เสร็จแล้วจะได้รับบาร์โค้ดจาก MMS สำหรับนำไปสแกนหน้างาน เพื่อทำการพิมพ์บัตiเข้าร่วมงานที่ได้ทำการจองไว้
ตัวอย่างการใช้งานบาร์โค้ดแบบ PDF417 - การนำมาใช้กับบัตรประชาชน ในประเทศบาร์เรน์ และการ์ต้า - การนำบาร์โค้ดมาพิมพ์ลงบนใบอนุญาตขับรถ (รูปที่ 24, 25, 26) เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูล และประวัติต่างๆ ของผู้ขับขี่ มีการนำไปใช้ใน ประเทศแคนาดา ประเทศในโซนอเมริกาใต้ื [11] และสหรัฐอเมริกา
- การนำบาร์โค้ดไปใช้กับบัตรประกันสังคม (รูปที่ 27) เพื่อใช้ในการเก็บประวัติข้อมูลต่างๆ เช่นการเข้าใช้บริการ และข้อมูลอื่นๆ ของผู้ถือบัตร เป็นต้น [12] - ด้านการขนส่งสินค้า (รูปที่ 28) เป็นการขนส่งสินค้าทางเรือ โดยนำบาร์โค้ดไปใช้ในการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า ข้อมูลการขนส่งสินค้า จำน จำนวนสินค้า และข้อมูลอื่นๆ เป็นต้น Glass โปรแกรมช่วยอ่านค่าบาร์ดค้ดบนโทรศัพท์มือถือ โปรแกรม Glass เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการสแกนบาร์โค้ดเพื่อทำการอ่านข้อมูลที่เก็บอยู่ในบาร์โค้ด 2 มิติแบบ QR Code และ แบบ Data Matrix โดยใช้โทรศัพท์มือถือที่จะติดตั้งนั้นต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานคือ มีกล้องดิจิตอลในตัวเครื่อง มีระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนซีรีย์ 60 ขึ้นไป และ สามารถใช้งาน GPS, WAP, HTTP ได้ หมายเหตุ ตัวอย่างยี่ห้อและรุ่นโทรศัพท์ทึ่สามารถรองรับการใช้งานโปรแกรมได้ - Nokia 3650, 3660, 6600, 6630, 6670, 6680, 6681, 7610, 7650 - Seimens SX1 (โทรศัพทบางเครื่องอาจจะไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมได้ เนื่องจาก Firmware ของเครื่องนั้นอาจจะไม่สนับสนุนโปรแกรม) วิธีการติดตั้งโปรแกรม 1. เริ่มต้นโดยการดาวน์โหลดโปรแกรม Glass.sis ที่ http://activeprint.org/download.html 2. จากนั้นโอนไฟล์ Glass.sis ที่ได้มาไปยังโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถทำได้โดยอาศัย Bluetooth หรือ Card reader เป็นต้น 3. เปิดไฟล์ Glass.sis เพื่อทำการติดตั้ง โดยเริ่มต้นการติดตั้งจะปรากฏข้อความว่า "Install Glass?" เลือก YES เพื่อยืนยันการติดตั้ง 4. หลังจากนั้นจะปรากฏข้อความเพื่อถามว่าต้องการจัดเก็บโปรแกรมลงในหน่วยความจำของเครื่องโทรศัพท์มือถือหรือในเมโมรีการ์ด ดังรูปที่ 30 5. เมื่อทำการเลือกเสร็จแล้วจะปรากฏข้อความแสดงเงื่อนไขและข้อตกลงการใช้โปรแกรม ดังรูปที่ 31 ให้เลือก OK แล้วโปรแกรมจะเริ่มทำการ ติดตั้ง
การเปรียบเทียบบาร์โค้ด 2 มิติชนิดต่างๆ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
บาร์โค้ด 2 มิติ | PDF417 | MaxiCode | Data Matrix | QR Code | |
ผู้พัฒนา (ประเทศ) | Symbol Technologies (สหรัฐอเมริกา) | Oniplanar (สหรัฐอเมริกา) | RVSI Acuity CiMatrix | DENSO | |
ประเภทบาร์โค้ด | แบบสแต๊ก | แบบเมตริกซ์ | แบบเมตริกซ์ | แบบเมตริกซ์ | |
ขนาดความจุข้อมูล | ตัวเลข | 2, 710 | 138 | 3,116 | 7,089 |
ตัวอักษร | 1,850 | 93 | 2,355 | 4,296 | |
เลขฐานสอง | 1,1018 | - | 1,556 | 2,953 | |
ตัวอักษรญี่ปุ่น | 554 | - | 778 | 1,817 | |
ลักษณะที่สำคัญ | - บรรจุข้อมูลได้มาก | - มีความเร็วในการอ่านสูง | - บาร์โค้ดมีขนาดเล็ก | - บาร์โค้ดมีขนาดเล็ก - มีความเร็วในการอ่านสูง - บรรจุข้อมูลได้มาก | |
มาตรฐานที่ได้รับ | -ISO/IEC 15438 - AIM USS-PDF417 | -ISO/IEC 16023 -ANSI/AIM BC10-ISS-MaxiCode | - SIO/IEC 16022 ANSI/AIM BC11-ISS-Data Maxtix | - SIO/IEC 18004 - JIS X 0510 JEUDA-55 - AIM ITS/97/001 ISS-QR Code |
บาร์โค็ดแบบ QR Code (Quick Response Code) เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
บาร์โค้ดแบบ Data Matrix เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
บาร์โค้ดแบบสแต๊ก เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
ลักษณะของบาร์โค้ด PDF417
บาร์โค้ด 1 มิติ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
บาร์โค้ดแบบแท่ง เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
บาร์โค้ดแบบตัวเลข เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
บาร์โค้ดแบบตัวเลข EAN-13 (European Article Numbering international retail product code) เป็นแบบบาร์โค้ด ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก โดยบาร์โค้ดประเภทนี้จะมีลักษณะเฉพาะของชุดตัวเลขจำนวน 13 หลัก ซึ่งมีความหมายดังนี้ 3 หลักแรก คือ รหัสของประเทศที่กำหนดขึ้นมาเพื่อให้ผู้ผลิตได้ทำการลงทะเบียนได้ทำการผลิตจาก ประเทศไหน 4 หลักถัดมา คือ รหัสโรงงานที่ผลิต 5 หลักถัดมา คือ รหัสของสินค้า และ ตัวเลขในหลักสุดท้าย จะเป็นตัวเลขตรวจสอบความถูกต้องของบาร์โค้ด (Check digit) แม้ว่าบาร์โค้ดแบบ EAN-13 จะได้รับการยอมรับไปทั่วโลก แต่ในสหรัฐอเมริกาและแคนนาที่เป็น ต้นกำเนิดบาร์โค้ดแบบ UPC-A ยังคงมีการใช้บาร์โค้ดแบบเดิม จนวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2005 หน่วยงาน Uniform Code Council ได้ประกาศให้ใช้บาร์โค้ดแบบ EAN-13 ไปพร้อมๆ กับ UPC-A ที่ใช้อยู่เดิม การออกประกาศในครั้งนี้ทำให้ผู้ผลิตที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาและ แคนาดาต้องใช้บาร์โค้ดทั้ง 2 แบบบนผลิตภัณฑ์ การคำนวนตัวเลขตรวจสอบความถูกต้องของ บาร์โค้ดแบบ EAN-13 (Check digit Calculation) >> นำตัวเลขในตำแหน่งคู่ (หลักที่ 2,4,6,8,10,12 )มารวมกัน แล้วคูณด้วย 3 >> นำตัวเลขในตำแหน่งคี่ (หลักที่ 1,3,5,7,9,11 )มารวมกัน >> นำผลลัพท์จากข้อ 1 และ 2 มารวมกัน >> นำผลลัพท์ที่ได้จากข้อ 3 ทำการ MOD ด้วย 10 จะได้เป็นตัวเลข (Check digit ) ที่จะต้องแสดงในหลักที่ 13 ดูข้อมูล เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด รุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ : http://www.vayomerchant.com/pos/Barcode-Printer บริษัทขายส่ง อุปกรณ์ POS & IT และ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด ครบวงจร บาร์โค้ดแบบตัวเลข
การทำงานของบาร์โค้ด เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
ข้อดีของการใช้ บาร์โค้ด เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
บาร์โค้ด 2 มิติ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
บาร์โค้ด 2 มิติ บาร์โค้ด 2 มิติเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาเพิ่มเติมจากบาร์โค้ด 1 มิติ โดยออกแบบให้บรรจุข้อมูลได้ทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน ทำให้สามารถบรรจุข้อมูลมากได้ประมาณ 4,000 ตัวอักษร หรือประมาณ 200 เท่าของบาร์โค้ด 1 มิติในพื้นที่เท่ากันหรือเล็กกว่า ข้อมูลที่บรรจุสามารถใช้ภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษได้ เช่น ภาษาญี่ปุ่น จีน หรือ เกาหลี เป็นต้น และบาร์โค้ด 2 มิติสามารถถอดรหัสได้แม้ภาพบาร์โค้ดบางส่วนมีการเสียหาย อุปกรณ์ ที่ใช้อ่านและถอดรหัสบาร์โค้ด 2 มิติมีตั้งแต่เครื่องอ่านแบบซีซีดี หรือเครื่องอ่านแบบเลเซอร์เหมือนกับบาร์โค้ด 1 มิติจนถึงโทรศัพท์มือถือแบบมีกล้องถ่ายรูปในตัวซึ่งติดตั้งโปรแกรมถอดรหัสไว้ ลักษณะของบาร์โค้ด 2 มิติมี อยู่มากมายตามชนิดของบาร์โค้ด เช่น วงกลม สี่เหลี่ยมจตุรัส หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายกันกับบาร์โค้ด 1 มิติ บาร์โค้ด 2 มิติ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท >>บาร์โค้ด 2 มิติ แบบสแต๊ก (Stacked Barcode) บาร์โค้ดแบบสแต๊กมีลักษณะคล้ายกับการนำบาร์โค้ด 1 มิติมาวางซ้อนกันหลายแนว มีการทำงานโดยอ่านภาพ บาร์โค้ดแล้วปรับความกว้างของบาร์โค้ดก่อนทำการถอดรหัส ซึ่งการปรับความกว้างนี้ทำให้สามารถถอดรหัส จากที่เสียหายบางส่วนได้ โดยส่วนที่เสียหายนั้นต้องไม่เสียหายเกินขีดจำกัดหนึ่งที่กำหนดไว้ การอ่านบาร์โค้ด แบบสแต๊กสามารถอ่านได้ทิศทางเดียว เช่น อ่านจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย และการอ่านจากด้านบนลง ล่างหรือจากด้านล่างขึ้นด้านบน ตัวอย่างบาร์โค้ดแบบสแต๊ก คือ บาร์โค้ดแบบ PDF417 (Portable Data File) >>บาร์โค้ด 2 มิติ แบบเมตริกซ์ (Matrix Codes) บาร์โค้ดแบบเมตริกซ์มีลักษณะหลากหลายและมีความเป็นสองมิติมากกว่าบาร์โค้ดแบบสแต๊กที่เหมือนนำบาร์โค้ด 1 มิติไปซ้อนกัน ลักษณะเด่นของบาร์โค้ดแบบเมตริกซ์คือมีรูปแบบค้นหา (Finder Pattern) ทำหน้าที่เป็นตัวอ้าง อิงตำแหน่งในการอ่านและถอดรหัสข้อมูล ช่วยให้อ่านข้อมูลได้รวดเร็วและสามารถอ่านบาร์โค้ดได้แม้บาร์โค้ดเอียง หมุน หรือกลับหัว ตัวอย่างของบาร์โค้ดแบบแมตริกซ์ คือ บาร์โค้ดแบบ MaxiCode , บาร์โค้ดแบบ Data Matrix , บาร์โค้ดแบบ QR Code ดูข้อมูล เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด รุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ : http://www.vayomerchant.com/pos/Barcode-Printer บริษัทขายส่ง อุปกรณ์ POS & IT และ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด ครบวงจร บาร์โค้ด 2 มิติ
ความหมายของ บาร์โค้ด เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
Barcode คืออะไร ? |
|
รหัสแถบ (Bar code) คือ แถบเส้นดำยาวพิมพ์เรียงเป็นแถบบนตัวภาชนะสำหรับบรรจุสินค้าที่วางขายกันตามร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ททั่วไป สิ่งซึ่งแถบดำเหล่านี้เหมายถึงนั้นมักจะเป็น "ข้อความ" ที่ใช้บ่งบอกตัวสินค้านั้น ๆ เช่นว่า ยาสีฟัน เป็นต้น การใช้รหัสแถบบวกกับเครื่องอ่านรหัสแถบนี้ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และความแม่นยำในการทำงานได้มาก ตัวอย่างในซูเปอร์มาร์เก็ท รหัสแถบที่ติดอยู่บนตัวสินค้า จะทำให้การคิดเงินทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ คือเมื่อพนักงานเพียงแต่ใช้ตัวอ่านรหัสแถบรูดผ่านรหัสแถบ ก็จะทราบว่าสินค้าชนิดนั้นเป็นสินค้าอะไร เมื่อบวกกับการโปรแกรมราคาสินค้าเข้ากับเครื่องคิดเงินบางประเภท ความผิดพลาดในการกดราคาสินค้าก็จะไม่เกิดขึ้น และในกรณีนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องติดราคาสินค้าลงบนสินค้าทุกตัว ทำให้สะดวกต่อการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าในอีกทางหนึ่ง |
อีกตัวอย่างของการใช้รหัสแถบได้แก่ ศูนย์แยกจดหมายหรือสิ่งของพัสดุภัณฑ์ ในปัจจุบันการแยกแยะจดหมายอัตโนมัติโดยการให้เครื่องอ่านที่อยู่บนซองจดหมายหรือพัสดุภัณฑ์นั้นยังทำไม่ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ และอีกประการหนึ่งความรวดเร็วก็ยังไม่ได้ระดับที่น่าพอใจ ระบบแยกจดหมายจึงใช้รหัสแถบเป็นสื่อกลาง โดยก่อนที่จะมีการส่งเข้าระบบแยก เราจะทำการตีรหัสแทนที่อยู่ปลายทางลงบนตัวจดหมายก่อน จากนั้นส่วนต่าง ๆ ในระบบแยกจดหมายก็จะอาศัยการอ่านรหัส ซึ่งสามารถทำได้อย่างง่ายดาย และแม่นยำในการแยกแยะจดหมายต่อไป ที่มา : ดร.สุวิทชัย คุ้มปีติ วารสารคอมพิวเตอร์ สมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ปีที่ 15 ฉบับที่ 75/2531 |